เรื่องราวดีดีที่ได้เรียนรู้ในปี ๒๕๕๘

ผมเชื่อว่าในทุกๆปีเราทุกคนต่างได้เรียนรู้อะไรมากมาย มีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายปะปนกันไป มันคงจะดีถ้าเราทิ้งเรื่องร้ายๆไว้กับปีก่อน แล้วเก็บเอาแต่เรื่องดีดีไปสู่ปีใหม่ ลองย้อนไปมองดูว่ามีอะไรที่เราได้เรียนรู้ มีเรื่องอะไรที่เกิดขึ้นแล้วส่งผลดีต่อตัวเราบ้าง มาสรุปกันดูจะได้รู้ว่าเราพัฒนามาไกลแค่ไหนในหนึ่งปี ทั้งในเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้าง ลองมาดูกันเลย 🙂


1. เริ่มต้นปีก็ได้ลองไปเป็นคนขับรถ

ด้วยคำชวนของ พี่เดียร์ อดีตไกด์มือหนึ่งของหัวหินที่ให้ผมลองมาเป็นคนขับรถพานักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวครับ 2 วัน 1 คืน จากหัวหินสู่เมืองกาญ จบด้วยกรุงเทพมหานคร งานนี้เหมือนได้เที่ยวฟรี กินฟรี แถมมีค่ารถให้ เบ็ดเสร็จแล้วเกือบหมื่นบาท ตอนนั้นแทบจะหยุดทุกอย่างมารับจ้างขับรถอย่างเดียวเลยล่ะ 555 แต่ก็ได้ทำแค่งานเดียวครับ เป็นการเรียนรู้ที่ดี เพราะการขับรถให้คนอื่นนั่ง แถมเป็นลูกค้าที่เสียเงินมา แถมยังต้องสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษนี่ก็เล่นเอาเหงื่อออกมืออยู่เหมือนกัน แต่สนุกดี

ฝรั่งสองสามีภรรยาชาวยุโรป น่ารักเฟรนลี่ สนุกสนานมากมาย สองคนในรูปนี้เลย เห็นแค่หลังก็ยังดี ที่สุสานจากสงคราวโลกครั้งที่สอง เมืองกาญฯ

1669800_10152709882373253_2715271584089610140_o

สิ่งที่ได้เรียนรู้ : แน่นอนก็ได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษ และยังได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ผมเชื่อว่าทุกอย่างเป็นประสบการณ์ที่เราสามารถเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่นๆได้ เป็น Passive Skill ภาษาเกมเค้าเรียกสกิลติดตัวนั่นเอง 😀


2. ได้ลองใส่โสร่ง ร่วมงานวันชาติมอญ ปะแป้งทานาคา

ที่บ้านบ่อญี่ปุ่น กาญจนบุรี เป็นแหล่งชุมชนที่อาศัยร่วมกันทั้งไทยและมอญ ก่อนจะเดินทางเข้าพม่าก็ได้มีโอกาสแวะมานุ่งชุดประจำชาติมอญ เสื้อเชิ๊ตขาว โสร่งสีแดงลายตารางสีขาว ตอนนั้นนุ่งโสร่งเป๊ะมาก พยายามสื่อสารกับชาวมอญได้มาสองคำ “มะเงยระอาว” กับ “ตังกุลระอาว” แปลว่า สวัสดีครับ และ ขอบคุณครับ ไม่ว่าใครจะทำอะไรเราก็พูดสองคำนี้ไว้ล่ะ แจกมิตรไมตรี ชาวมอญอัธยาศัยดีนะครับ ถ้าเทียบกับพม่าแล้ว มอญถือว่ายิ้มแย้มแจ่มใสและช่างคุย คล้ายกับคนไทยมากกว่า

10960397_10152727701138253_4945441310579955907_o

สิ่งที่ได้เรียนรู้ : ได้รู้จักธรรมเนียมชาวมอญครับ ได้ภาษามอญมาสองคำ และได้เห็นว่าการสื่อสารนั้นสำคัญนะครับ คนเราจะต่างเชื้อชาติต่างเผ่าพันธุ์แค่ไหน ถ้าสื่อสารกันเข้าใจซะอย่างก็เพื่อนกันทั้งนั้นล่ะ


3. ได้บวชเรียน เข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์

รวมระยะเวลาก็ประมาณ 1 เดือนพอดีที่ได้บวชเรียน หลังจากตั้งใจไว้ตั้งแต่ปีก่อน ได้อะไรมาเยอะมากครับ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดที่ได้จากการบวชก็คือเวลา เวลาที่ได้อยู่กับตัวเอง เวลาที่ได้คิดและทบทวนทุกเรื่องราวที่ผ่านไปแล้ว และเวลาที่จะได้คิดไตร่ตรองถึงสิ่งต่อๆไปที่เราจะทำในภายภาคหน้า หลายๆเรื่องที่ได้เห็นกระจ่างมากขึ้น เพียงแค่ให้เวลากับมันเท่านั้นเอง

1510721_10152802791988253_1499856382534033289_n

สิ่งที่ได้เรียนรู้ : เวลาคือสิ่งสำคัญครับ เราทุกคนพยายามใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสดกับทุกสิ่งรอบตัว แต่กลับลืมให้เวลาเพื่อทำความรู้จักกับตัวเอง ตัวเราเรารู้จักตัวเองดีที่สุดก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าจะรู้จักได้เอง เราต้องหัดพูดคุย ถามไถ่ และใช้เวลาของเราเองเพื่อทำความรู้จักกับตัวเราเองให้มากขึ้นครับ แล้วอะไรๆจะดีขึ้นแน่นอน


4. ได้ออกเดินทางท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ

ตามที่ได้สรุปไว้แล้วในบทความ การเดินทางในปี ๒๕๕๘ ว่าเป็นปีแห่งการเดินทาง แต่สิ่งที่สำคัญในทุกการเดินทางที่ผมไปไม่ใช่ตัวสถานที่ครับ แต่เป็นบรรยากาศที่เราสร้างขึ้นมาจากหลายๆองค์ประกอบ ทั้งเพื่อนร่วมทาง ทัศนคติและมุมมอง รวมถึงภาระที่เราต่างพกกันไว้ติดตัว องค์ประกอบเหล่านี้ต้องสอดคล้องกันครับ จึงจะทำให้การเดินทางนั้นๆมีความหมาย และเราจะได้อะไรมากกว่าแค่วิวสวยๆตรงหน้าลับมาแน่นอน

cover

สิ่งที่ได้เรียนรู้ : แน่นอนว่าได้รู้ว่าตัวเองชอบเดินทางครับ แต่ไม่ใช่ระยะทางไกลที่เราต้องการ แต่เป็นเรื่องราวระหว่างการเดินทางต่างหากที่เราสนใจ ทำให้การจะใช้ชีวิตหรือทำอะไรๆต่อไป เราจะพิถีพิถันตั้งแต่เริ่มออกเดินเลยครับ หนทางหมื่นลี้ มีความหมายตั้งแต่ก้าวแรกที่เดิน 🙂


5. ได้ลองพยายามอดออม

ใช้คำว่าพยายามเลยทีเดียว เพราะเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ครับ มีเท่าไหร่ใช้หมด 555 เลยลองพยายามดูอย่างน้อยก็เศษเหรียญ แบ่งย่อย จิปาถะที่นึกขึ้นได้ เอาหยอดกระปุกไว้ก็ยังดี แต่หยอดกระปุกเดียวมันธรรมดาไป แยกกระปุกไว้ให้มันเท่ๆละกัน

และเป็นไปตามคาดครับ กระปุกซ้ายหยอดเหรียญห้า กระปุกขวาหยอดแบงค์พัน พอถึงสิ้นปีเหลือแต่เหรียญห้าอย่างเดียว 555

11429616_10153008777393253_7200613146469086020_o

สิ่งที่ได้เรียนรู้ : ถ้าความสุขของการเขียนจดหมายคือการที่เขียนไปแล้วนึกถึงหน้าของผู้อ่านไป ว่าเค้าจะคิดยังไง เค้าจะรู้สึกยังไงกับจดหมายฉบับนี้แล้วล่ะก็ การออมเงินก็เหมือนกันครับ ทุกครั้งที่เราหยอดเงินลงไป ภาพความฝันที่ยิ่งใหญ่ก็จะเริ่มลอยมา หยอดเหรียญห้าแต่นึกว่าเป็นแบงค์พันกันเลยทีเดียว ความสุขเล็กๆสร้างได้


6. ได้สอนบรรยายและเป็นพิธีกรมากขึ้น

หนึ่งในเรื่องที่คิดว่าพอจะทำได้ดีมาตั้งแต่สมัยเรียนก็คือ การนำเสนองาน และการสอนหนังสือครับ เพราะมีโอกาสได้ทำมาตอดตั้งแต่มัธยมจนจบมหาลัย และจริงๆแล้วในปีก่อนๆก็มีโอกาสได้ไปบรรยายและจัดอบรมมาบ้าง แต่ก็ไม่มากเท่ากับปีที่ผ่านมา ที่เบ็ดเสร็จรวมทุกงานแล้วน่าจะมีผู้ฟังไม่ต่ำกว่าพันคน ในหลายช่วงอายุวัย ตั้งแต่เด็กมัธยมต้นจนถึงวัยผู้ใหญ่ใกล้เกษียณเลยครับ

ทั้งไปบรรยายที่มหาลัย นำกิจกรรมให้เด็กนักเรียน เป็นพิธีกรงานอีเวนท์ จัดอบรมเอง รวมถึงร่วมกับหน่วยงานราชการบรรยายเรื่องโลกยุคดิติตัลให้เจ้าของกิจการฟัง สนุกและตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้จับไมค์อยู่หน้าเวที เพราะสำหรับผู้ฟังอาจจะเตรียมตัวแค่มาฟังอย่างเดียว แต่ผู้บรรยายต้องใช้เวลาล่วงหน้าเป็นสัปดาห์เพื่อสรุปเนื้อหาเพื่อจะมาพูดแค่สองสามชั่วโมง พูดยังไงให้เข้าใจ อธิบายยังไงให้ไม่น่าเบื่อ พูดไปหัวเราะไปได้รึเปล่า สนุกสุดๆไปเลย

11953128_10153163106438253_5515954803884181340_n

สิ่งที่ได้เรียนรู้ : ได้เพิ่มความมั่นใจครับ ทุกครั้งที่เราสามารถอธิบายเรื่องที่คนสงสัยให้เค้าเข้าใจได้เนี่ย มันเป็นอะไรที่สุดยอดไปเลย แถมยิ่งสอนยิ่งบรรยายเหมือนเรายิ่งได้ความรู้ไปในตัว ดีจริงๆ


7. ขายของตลาดนัด

อันนี้ก็ด้วยความบังเอิญครับ จากคำเชิญชวของคุณ ออมนิดา หวานใจผมเองที่ร่วมงานกับทีมออแกไนซ์ของตลาดเปิดใหม่ ชื่อตลาดนัดเขาเต่า หัวหิน ได้พื้นที่ขายของฟรีเดือนนึงครับ ตลาดเปิดอาทิตย์ละสองวัน แต่เอาเข้าจริงก็ไปขายอยู่แค่ 2-3 วันครับ 555 ก็อยากลองดูเพราะไม่เคยทำมาก่อน และคิดว่าน่าสนุกดีครับ พอเอาเข้าจริงก็ทั้งสนุกทั้งเหนื่อย ไอตอนข่ายเนี่ยไม่เหนื่อยครับ ขายได้ก็ดีใจ แต่ไอตอนหาของมาขาย ซื้อของจัดร้าน และตอนเก็บของเนี่ย เหนื่อยเหลือเกิน แต่ก็สนุกดีครับ บรรยากาศดีดี คิดซะว่ามาเที่ยวเล่นละกัน

11807385_10153127143983253_1426126407997139675_o


8. ได้กลับบ้านมากขึ้น

ผมเองก็ตัดสินใจย้ายภูมิลำเนามาอยู่หัวหินได้ 3 ปีกว่าแล้ว นานๆทีก็กลับบ้านซะทีนึง แต่เมื่อปีที่ผ่านมาก็ตัดสินใจว่าจะอยู่กับครอบครัวให้มากขึ้นครับ โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นปี จนมาถึงตอนนี้ก็กลับบ้านทุกเดือน บางเดือน 2-3 รอบ เพราะในยุคนี้แล้วการทำงานด้านดิจิตัลสามารถทำจากที่ไหนก็ได้ ถึงจะกลับมาอยู่บ้านก็ยังทำงานได้เหมือนเดิมครับ เลยมีเวลาให้กับผู้หญิงที่ผมรักที่สุดในโลกคนนี้เลย แม่ผมเอง 😀

11988642_10153181283183253_1015809933840682966_n

สิ่งที่ได้เรียนรู้ : ครอบครัวสำคัญที่สุดครับ เป็นความผูกพันธ์และความรักแบบไม่มีเงื่อนไข โดยเฉพาะคุณพ่อ คุณแม่ครับ ยิ่งเราโตมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเข้าใจในความสามารถของพวกท่านมากขึ้นเท่านั้น ท่านผ่านอะไรมาเยอะกว่าเรามากครับ และมีความรู้มากมายมหาศาลกว่าที่เราคิดไว้ คำแนะนำของผู้ใหญ่ ถ้ารู้จักปรับใช้ยังไงก็มีประโยชน์


9. ได้เริ่มเขียนเว็บเกี่ยวกับหัวหินจริงๆจังๆซะที

หลังจากตั้งท่าอยู่นานตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายมาอยู่นี่ครับ ประกอบกับความเท่ของหัวหินที่เราได้เห็นในโลกจริงเนี่ย ทำไมมันไม่ขึ้นไปอยู่บนโลกออนไลน์ซะที หัวหินเป็นเมืองที่เจริญเติบโตไวมากในช่วงห้าปีหลังครับ แต่ในด้านดิจิตัลนี่ยังเหมือนเดิม คือแทบไม่พัฒนาไปไหนเลย ไม่รอแล้วครับทำมันเองเลยละกัน ทั้งเริ่มสร้างชุมชนคนใช้สื่อดิจิตัล จัดอบรมให้ความรู้ด้านการทำตลาดออนไลน์ก็แล้ว ถึงคราวทำเว็บไซต์ให้คนหัวหินเลยละกัน เว็บมีชื่อว่า หัวหินทาวน์ huahin.town ชื่อสั้นจำง่ายชัดเจน

พยายามจะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับหัวหินครับ เน้นสำหรับคนหัวหิน และนักท่องเที่ยวที่อยากจะสัมผัสหัวหินจริงๆครับ รวมถึงไว้เป็นแหล่งหางานรับสมัครงานของคนหัวหินอีกด้วย ตอนนี้ก็เพิ่งเริ่มจริงจังได้ไม่นานมาก แต่ก็ได้เริ่มแล้ว ก้าวแรกสำคัญเสมอ ก็จะพยายามพัฒนาต่อเนื่องต่อไปครับ

ht

สิ่งที่ได้เรียนรู้ : อยากได้อะไรให้ลงมือทำครับ อะไรทำเองได้ทำ และผลลัพธ์มันจะตรงใจตามที่เราต้องการ


10. ได้แต่งห้องคอนโดเพิ่มขึ้น

หลังจากเข้าอยู่เมื่อวันคริสมาสต์ปี 2555 พร้อมหนี้ก้อนโต และหมดไปกับการซื้อเฟอร์นิเจอร์ชุดแรกไปแล้ว ก็เว้นว่างกับการตกแต่งห้องไปเลยครับ ขาดหลายอย่างที่ว่าจะทำก็ไม่ได้ทำ จนในที่สุดก็ได้เริ่มทำนิดหน่อยในปีที่ผ่านมา ทั้งติดม่านขาวบางสองชั้นให้ประตูระเบียง ทั้งปูหญ้าเทียมทำสวนไว้นั่งเล่นตรงนอกระเบียงห้อง และซื้ออุปกรณ์ทำอาหารเพิ่ม ทำให้เริ่มจะให้บรรยากาศเป็นบ้านมากกว่าเดิม ถึงจะเป็นคอนโดแต่ผมก็เรียกว่าบ้านนะ เพราะอยู่แล้วมีความสุขน่ะสิ

12279176_10153346272433253_3499378471985664131_n

สิ่งที่ได้เรียนรู้ : บรรยากาศสำคัญนะครับ ส่งผลต่อทั้งความคิด และอารมย์ ถ้าเรามีพื้นที่ดีดี ความคิดสรา้งสรรค์ที่มีก็จะออกมาทำงาน อ่อแล้วก็อีกย่าง หนี้ก็สำคัญเช่นกัน ถ้าไม่มีหนี้ก้อนนี้ก็คงไม่อดทนสู้ชีวิตมาจนวันนี้ได้หรอก อีก 22 ปี ยาวๆไป 🙂


11. สุดท้ายแล้วกับเทคโนโลยีเปลี่ยนชีวิต

คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ของที่เราใช้กันอยู่แทบทุกวันครับ มี Application มากมายที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันเราดีขึ้น และมีอยู่ 2 ตัวที่ผมใช้อยู่เป็นประจำคือ Wunderlist และ Wallet ตัวนึงใช้บันทึกงานที่ต้องทำ ส่วนอีกตัวไว้บันทึกรายรับรายจ่ายครับ สองเรื่องง่ายๆที่ทุกคนต้องใช้ในชีวิตประจำวัน

ก่อนนี้ผมก็คิดว่าเรื่องง่ายๆจำเอาก็ได้ง่ายจัง แต่ไปๆมาๆมันลืมสิครับ ก็ต้องเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยตรงนี้ และยิ่งพอได้ใช้เป็นประจำก็ยิ่งติดใจ เพราะรู้สึกว่าอะไรๆมันก็ดูสมเหตุสมผลไปหมด โดยเฉพาะรายรับรายจ่ายเนี่ย หลายครั้งที่เราเปิดกระเป๋าแล้วไม่เจอตังเนี่ยก็จะคิดว่าตังหายตังหายตลอด แต่พอไปเปิดดูบันทึกย้อนหลังเท่านั้นล่ะ ก็จะจำได้ทันทีว่าใช้อะไรไปบ้าง 55 ลองใช้กันดูนะครับสำหรับ Android ส่วน iPhone จะมีเฉพาะ Wunderlist ครับ App บันทึกรายรับรายจ่ายก็น่าจะมีตัวอื่นที่ใช้ได้เหมือนกันลองหารีวิวดูอีกทีนะ

Download : Wunderlist | Wallet for Android

all-devices@2x

สิ่งที่ได้เรียนรู้ : เทคโนโลยีเป็นสิ่งดีครับ อยู่ที่เราจะนำไปใช้ยังไงมากกว่า ประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับตัวเรา ปรับตัวเข้าหาสิ่งใหม่ และเรียนรู้ที่จะใช้มันอย่างเกิดประโยชน์สูงสุดครับ


และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ในปี 2558 ครับ ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ไม่ได้เขียนถึง แต่โดยภาพรวมแล้วก็อยากจะบันทึกเรื่องดีดีเก็บไว้ ให้พอได้คิดทบทวนว่าเราได้เรียนรู้อะไรบ้าง ได้พัฒนาอะไรไปบ้างในแต่ละปีที่ผ่านๆมา และเพื่อจะได้เห็นภาพและกำหนดเป้าหมายได้ว่าเราจะมุ่งไปทางไหนในปีถัดๆไปนั่นเอง เราจะเข้าใจตัวเราเองได้ดีที่สุด และทุกการพัฒนาตัวเองก็จะเกิดประโยชน์กับตัวเราเองมากที่สุดเช่นกันนะครับ

แล้วไว้เจอกันอีกทีบทความหน้า สำหรับวันนี้ขอบคุณและสวัสดีครับ 🙂
เขม