Please fill you email
E-mail  

F.A.Q


 

           

ICE ทำหน้าที่อะไร ?

 *
ICEได้รับแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนคัดเลือกนักเรียนและเป็นผู้ประสานงานเพื่อจัดส่งนักเรียนให้กับองค์กรอเมริกันซึ่งดำเนินการเรื่องนักเรียนแลกเปลี่ยนมากว่า 10 ปี จากนักเรียนทั่วโลกเพื่อไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
*
 สำหรับองค์กรต่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรในสหรัฐฯ นั้น อยู่ในมาตรฐานของ CSIET (The Council on Standards for International Educational Travel) ซึ่งเป็นหน่วยงานมาตรฐานการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษานานาชาติ
*
หลังการสมัคร   องค์กรอเมริกันจะออกเอกสาร DS 2019   เพื่อให้นักเรียนใช้เป็นเอกสารประกอบในการยื่นขอ VISA ที่สถานทูตอเมริกัน สถานทูตจะเป็นผู้ตรวจสอบให้กับผู้ปกครองโดยอัตโนมัติว่านักเรียนจะสามารถเดินทางไปเรียนโดยถูกต้องหรือไม่

ถ้ากรณีเดินทางไปเรียนเอง โดยไม่ได้เข้าร่วมกับโครงการแลกเปลี่ยน จะเสียค่าใช้จ่ายยังไง ?

»
ค่า homestay ประมาณเดือนละ US$600 ดังนั้น 1 ปีการศึกษา = US$ 6,000
»
โรงเรียน High School รัฐบาลอเมริกัน ปกติคนต่างชาติจะไม่สามารถเข้าเรียนได้ แต่นักเรียนโครงการ ICE เป็นโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนซึ่งจัดโดยองค์กรสหรัฐอเมริกาที่ได้รับอนุญาต จากรัฐบาลอเมริกันในการเป็น sponsor ให้กับนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งถือเป็นทุนพิเศษไปเรียนในฐานะ J1 (นักเรียนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมฯ) ถ้านักเรียนประสงค์จะไปเรียนเอง ต้องเรียนที่โรงเรียนเอกชนซึ่งมีค่าเล่าเรียนตั้งแต่ US$ 7,000 - US$ 16,000 ต่อปี ซึ่งเมื่อรวมกับค่าที่พักจะสูงถึง US$ 13,000 – 22,000

เดินทางเมื่อไร ?

» ประมาณเดือนสิงหาคม - กันยายน กลับ เดือนมิถุนายน ของปีถัดไป (ประมาณ 10 เดือน)

ถ้าต้องการเรียนต่ออีก 1 ปี ได้หรือไม่ ?

»
ไม่ได้ เนื่องจากนักเรียนเดินทางไปศึกษาในฐานะนักเรียนทุนแลกเปลี่ยน เป็น VISA แบบ J1 ไปศึกษาได้เพียง 1 ปี และต้องเดินทางกลับภายใน 2 สัปดาห์ หลังจบการศึกษา แต่นักเรียนสามารถกลับไปศึกษาต่อได้โดยใช้ VISA แบบ F1 และจ่ายเงินค่าเล่าเรียนปกติ

ไปอยู่กับใคร เรียนที่ไหน เลือกได้หรือไม่ ?

»
นักเรียนจะไปพักกับอาสาสมัครครอบครัวอเมริกัน และเรียนในโรงเรียนรัฐบาลอเมริกัน นักเรียนไม่สามารถเลือกครอบครัวหรือโรงเรียนได้
 
วิธีการคือ ICE จะมีแบบฟอร์มเอกสารให้นักเรียนกรอกประวัติส่วนตัว โดยต้องกรอกอย่างละเอียดถึงความเป็นอยู่ของนักเรียนกับครอบครัวในประเทศไทย กิจกรรมที่ชอบ ติดรูปถ่ายร่วมกับครอบครัว เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งไปยังองค์กรสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ครอบครัวอเมริกันที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว และมีคุณสมบัติคล้ายกับครอบครัวนักเรียนมากที่สุดเป็นผู้เลือกนักเรียน (ครอบครัวแต่ละครอบครัวจะมีเหตุผลเลือกนักเรียนต่างกัน เช่น บางครอบครัวอาจต้องการคนเรียนเก่งมาก ๆ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีกับลูก หรือบางครอบครัวอาจต้องการคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ชอบทำกิจกรรม เป็นต้น) ดังนั้นการกรอกประวัติจะสำคัญมาก รูปถ่ายควรเป็นรูปถ่ายยิ้ม เมื่อจับคู่ครอบครัวได้แล้ว นักเรียนจะได้รับการวางแผนให้เรียนในโรงเรียนของชุมชนนั้น ๆ เพื่อสะดวกในการเดินทาง และสะดวกต่อครอบครัวในการดูแล

ถ้าไปอยู่แล้วมีปัญหากับครอบครัว จะขอย้ายได้หรือไม่่ ?

» ขอย้ายได้เฉพาะที่มีเหตุผลสมควร
 
การเข้าพักกับครอบ ครัวอาสาสมัครนั้น นักเรียนต้องตระหนักว่าการไปอาศัยในครอบครัวนั้น นักเรียนต้องพยายามปรับตัวเข้าหาครอบครัว ในขณะเดียวกันครอบครัวอาสาสมัครก็จะปรับตัวเข้าหานักเรียนเช่นกัน นักเรียนจะต้องเชื่อฟังตามระเบียบของครอบครัว เช่นควรกลับบ้านไม่เกินกี่โมง กรณีมีกิจกรรมจำเป็นต้องกลับช้ากว่ากำหนดต้องขออนุญาตก่อนล่วงหน้า เสนอช่วยงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าสามารถทำได้ ดูแลความเป็นระเบียบของข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของเรา เหล่านี้คือสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่นักเรียนควรปรับตัว แต่ถ้าปรับตัวแล้วมีความไม่เข้าใจกันเรื่องใด ๆ ก็ตาม นักเรียนควรแจ้งกับผู้ดูแลในชุมชนของนักเรียน ซึ่งเป็นตัวแทนขององค์กรสหรัฐอเมริกาได้ 24 ชั่วโมง โดยนักเรียนจะได้รับแจ้งชื่อ และ โทรศัพท์ ของตัวแทนนั้น ๆ หรือสามารถติดต่อ E-mail มาที่ ICE ได้ตลอดเวลา เมื่อตัวแทนได้รับแจ้งปัญหา ก็จะเข้าหารือกับนักเรียนและครอบครัวถึงเหตุผล    และจะดำเนินการย้ายตามเหตุผลสมควรของนักเรียนและกับครอบครัวอาสา สมัคร     เมื่อเหตุผลสมควร เจ้าหน้าที่ก็จะจัดหาครอบครัวให้ใหม่ โดยนักเรียนจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางเอง
 
** ครอบครัวอาสาสมัคร รับนักเรียนเข้าพักโดยไม่ได้รับผลตอบแทนใด ๆ แต่ยินดีดูแลนักเรียนด้วยความเต็มใจ และสมัครใจ เพื่อประโยชน์ที่ครอบครัวจะได้รับในการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ แตกต่าง   ให้กับสมาชิกในครอบครัว    ดังนั้น  นักเรียนควรให้เกียรติในความเอื้อเฟื้อของครอบครัวอาสาสมัคร **

เดินทางไปสหรัฐอเมริกาอย่างไร ?

»
นักเรียนเดินทางจากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกาด้วยตนเอง เมื่อถึงสถานีปลายทางจะมีครอบครัวอาสาสมัคร หรือตัวแทนชุมชนเป็นผู้มารอรับนักเรียนที่สนามบินปลายทาง ซึ่งจะมีการนัดหมายกันล่วงหน้าก่อนเดินทาง (นักเรียนที่ประสงค์จะเข้ารับการปฐมนิเทศน์ที่สหรัฐอเมริกาจะเดินทางเป็น กลุ่ม และมีเจ้าหน้าที่องค์กรสหรัฐมารอรับ)

เงินจ่ายสมทบเข้าร่วมโครงการครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ?

»
ค่าใช้จ่ายการศึกษาตามหลักสูตรทั้งหมด 1 ปีการศึกษา ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาใน Public High School
»
ค่าที่พัก อาหาร 2 มื้อ ระหว่างวันจันทร์-วันศุกร์ และวันหยุด 3 มื้อ
»
ค่าใช้จ่ายตัวแทนผู้ดูแลนักเรียนที่สหรัฐอเมริกา  ตลอด 1 ปีการศึกษา
»
ค่าประกันสุขภาพประเภทกลุ่ม ตลอด 1 ปีการศึกษา
»
ค่าจัดอบรมภาษาอังกฤษก่อนเดินทางในประเทศไทย และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการเตรียมความพร้อมของนักเรียนก่อนเดินทาง
»
ค่าใช้จ่ายในการ ประสานงานระหว่าง ICE กับ องค์กรสหรัฐอเมริกา และระหว่าง ICE กับนักเรียน ตลอด 1 ปีการศึกษา ผู้ปกครองจะได้รับรายงานในเรื่องการใช้ชีวิตกับครอบครัว การใช้ชีวิตในโรงเรียน และผลการเรียนของนักเรียน ทุก ๆ 3 เดือน
»
ค่าธรรมเนียม VISA (ประมาณ 140 เหรียญ สหรัฐ) และค่ารหัสเข้าจองวันสัมภาษณ์ 12 เหรียญสหรัฐ
» ค่าธรรมเนียม SEVIS (ประมาณ 180 เหรียญสหรัฐ) และค่าไปรษณีย์ด่วน 35 เหรียญสหรัฐ

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ มีอะไรบ้าง ?

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นักเรียนต้องชำระเพิ่มเติม มีดังนี้.-

» ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ
» Pocket Money เดือนละ 150 - 250 เหรียญสหรัฐ
  ค่าปฐมนิเทศ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา 4วัน 3คืน

ชำระเงินอย่างไร ?

»
ชำระเงินเป็นเงินสดหรือเช็ค ที่สำนักงาน ICE เลขที่ 184/99 อาคารฟอรั่ม ทาวเวอร์ ชั้น 19 ถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10320 เบอร์โทร 0-2645-2081-2 โทรสาร 0-2248-8004

นักเรียนที่เรียนอยู่ในชั้น ม. 2 และอายุไม่ถึงเกณฑ์ ( 15 ปี ณ วันเดินทาง ) สมัครได้หรือไม่ ?

»
สามารถสมัครและมาสอบได้ โดยสามารถรักษาสิทธิ์ไว้ได้ 2 ปี จนถึงวันที่นักเรียนมีคุณสมบัติ และพร้อมจะเดินทางไปได้ แต่นักเรียนที่อายุเกิน 18 ปี ณ วันเดินทาง จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนักเรียนทุนแลกเปลี่ยนได้

นักเรียนที่ไม่ได้รับการพิจารณาเข้าร่วมโครงการมีหรือไม่ ?

» มี ดังนี้.-
คะแนนเฉลี่ยภาษาอังกฤษ ต่ำกว่า C หรือมีคะแนนวิชาหลักๆ ต่ำกว่า C เช่น คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ เป็นต้น
ติดยาเสพติด หรือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือ สูบบุหรี่ (จะถูกส่งตัวกลับทันทีที่ทางองค์กรสหรัฐอเมริกาทราบและไม่สามารถเรียกค่าใช้จ่ายใด ๆ คืนได้)
ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในเบื้องต้น และไม่ผ่านมาตรฐานการสอบ SLEP TEST และการสอบสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ
เป็นโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคประจำตัวร้ายแรง
ไม่ยินดีที่จะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ หรือมีปัญหาด้านบุคลิกภาพอย่างมากในการแสดงความมั่นใจที่จะอยู่ห่างจาก พ่อ-แม่
มีคดีความติดตัว
มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่จะเป็นนักเรียนแลกเปลีื่ยนที่จะประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลย์พินิจของ ICE

การปรับตัวในโรงเรียนที่สหรัฐอเมริกายากหรือไม่ อย่างไร ?

»
ในด้านวิชาการนั้น นักเรียนไทยมีความสามารถเทียบเท่า โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์แต่ในช่วงแรก ๆ ที่ไปศึกษาอาจจะมีปัญหาในด้านภาษา เนื่องจากความไม่คุ้นเคยกับสำเนียงต่างชาติ ดังนั้นนักเรียนจะต้องฝึกฝนตนเองในด้านการฟังเพิ่มเติม เพื่อให้ง่ายต่อการปรับตัวในช่วงแรก ๆ ซึ่ง ICE จะแนะนำและอบรมเพิ่มเติมให้ก่อนเดินทาง และนักเรียนควรฝึกฝนด้วยตนเองด้วย ปัญหาอื่น ๆ จะไม่มีอะไร ในโรงเรียนนักเรียนสามารถปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาในด้านการวางแผนการเรียนได้ แผนการเรียนจะเหมือนของไทย คือ มีให้เลือก สายวิทย์ , สายศิลป์ หรือภาษาแต่นักเรียนจะต้องเลือกเรียนให้ต่อเนื่องจากที่เีีรียนในประเทศไทย

นอกจากค่าใช้จ่ายที่แจ้งไว้แล้ว นักเรียนต้องเตรียมเงินไปอีกหรือไม่ ?


»
ควรมีเตรียมไปบ้าง จำนวนเท่าไร ขึ้นอยู่กับ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่จะไปซื้อ เช่น เสื้อผ้า สบู่ ยาสีฟัน ส่วนตัว หรือ ขนม เครื่องดื่ม อาหาร อื่น ๆ ที่จะซื้อทานพิเศษ แต่ไม่ควรให้นักเรียนพกเงินติดตัวไปในวันเดินทางเกิน $ 500 ผู้ปกครองควรส่งเงินให้นักเรียนมีติดตัวไว้ในแต่ละเดือนประมาณ $250 โดยอาจทำบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตให้ไป และผู้ปกครองชำระเงินผ่านบัตรที่ประเทศไทย ก็จะเป็นการปลอดภัยและสะดวก

ทำไมคัดเลือกนักเรียนก่อนการเดินทางถึงเกือบ 1 ปี ?

»
เนื่อง จาก นักเรียนจะต้องได้รับการเตรียมตัวในเรื่องของภาษาและเอกสารที่ต้องจัดเตรียม ให้กับทางองค์กรสหรัฐอเมริกา มีจำนวนมาก เพื่อจัดหาและคัดเลือกครอบครัวให้เหมาะสมกับประวัติครอบครัวของนักเรียนให้ มากที่สุด โดยจะเป็นการง่ายในการปรับตัวของทั้ง 2 ฝ่าย และจะต้องทำเรื่องสำรองที่เรียนให้กับนักเรียนในโรงเรียนรัฐบาลอเมริกัน ตลอดจนการเตรียมเอกสารในการยื่นขอ VISA ของนักเรียน ทุกขั้นตอนในการเตรียมตัวดังกล่าว จะเกี่ยวกับเอกสารจำนวนค่อนข้างมาก  ดังนั้น จึงต้องใช้เวลาล่วงหน้ามาก ก่อนเดินทาง    ทั้งนี้ เอกสารในส่วนของนักเรียนที่ต้องจัดเตรียมในประเทศไทย จะได้แจ้งให้นักเรียนจัดเตรียมเป็นระยะ ๆ ตามขั้นตอน ซึ่ง ICE จะมีจดหมายแจ้งอีกครั้ง

เอกสารที่นักเรียนต้องจัดเตรียมโดยคร่าว ๆ จะมีดังนี้.-
1.
เอกสารการเรียน หรือ ทรานสคริปต์ 3 ปีย้อนหลัง ตัวจริง โดยออกเป็นภาษาอังกฤษ และประทับตราโรงเรียนให้เรียบร้อย
2.
รูปถ่ายสีขนาด 3 x 3 นิ้ว จำนวน 1 รูป
3.
ข้อมูลประวัติการได้รับวัคซีนตั้งแต่เกิด
4.
บัญชีธนาคาร ของผู้ปกครองหรือผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายที่เคลื่อนไหวไม่น้อยกว่า 6 เดือน และแสดงยอดเงินไม่น้อยกว่า 500,000 บาท เพื่อใช้ในการประกอบการยื่นขอ VISA
5.
ประวัติของนัก เรียนโดยละเอียด และจดหมายแนะนำตัวนักเรียนต่อครอบครัวอาสา ICE จะจัดแบบฟอร์มเอกสารที่จะใช้กรอกและชี้แจงรายละเอียดกับนักเรียนอีกครั้ง

ดังนั้น ด้วยเหตุผลข้างต้นจึงมีความจำเป็นอย่างมากในการคัดเลือกนักเรียนเร็วก่อนกำหนดการเดินทางล่วงหน้าเป็นเวลานาน

การเทียบชั้นเรียนหลังจบการศึกษากลับมาทำอย่างไร ?

»
ICE ได้จัดให้มีการแนะแนว จากเจ้าหน้าที่กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการเพื่อให้ความรู้ดังกล่าว สรุปโดยคร่าว ๆ นักเรียนสอบผ่านชั้นเรียนกลับมาจะสามารถศึกษาต่อในชั้นถัดไป ที่โรงเรียนเดิมได้ โดยต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกรมวิชาการ เนื่องจากโรงเรียนที่นักเรียนไปศึกษาที่สหรัฐอเมริกา เป็นโรงเรียนรัฐบาลและได้รับการรับรองวิทยฐานะในประเทศไทย (นักเรียนสามารถดูได้จากเอกสารของกรมวิชาการที่ ICE สำเนาให้)

นักเรียนชาย จะผ่อนผัน รด. อย่างไร ?

»
นักเรียนต้องแจ้งอาจารย์ผู้กำกับผู้รับผิดชอบงานด้านรักษาดินแดนประจำโรงเรียน เป็นผู้ประสานงานกับกรมการรักษาดินแดน เพื่อรักษาสิทธิ์

ถ้าเป็นนักเรียนจบชั้น ม.5 และไปศึกษา เกรด 12 (ชั้น ม.6) ที่สหรัฐอเมริกา จะ Entrance อย่างไร ?

» นักเรียนมีทางเลือก 2 ทาง
1.
Entrance เข้ามหาวิทยาลัยของรัฐได้ตามระบบ Admission ที่รัฐบาลนำมาใช้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2549 เป็นต้นไป หลังจากเทียบความรู้ ม.6 จากกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการแล้ว (เจ้าหน้าที่กรมวิชาการจะแจ้งให้ทราบ) ICE จะมีจดหมายให้นักเรียนแจ้งกับทางโรงเรียนให้รักษาสถานภาพนักเรียน เพื่อกลับมาสามารถเทียบชั้นเรียนกับทางโรงเรียนได้
2.
สามารถเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญได้ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำของประเทศไทย โดยมีระบบการสอบเป็นระบบการศึกษานานาชาติ สอนเป็นภาคภาษาอังกฤษตั้งแต่ระดับปริญญาตรี ถึง ปริญญาโท หรือสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน หลักสูตรนานาชาติ

ในสหรัฐอเมริกา สิ่งที่นักเรียนไทยควรระมัดระวังและเป็นอันตรายสำหรับผู้หญิงมากที่สุด  จากประสบการณ์ที่เคยได้ฟังหรือได้ยิน มีอะไรบ้าง มีหรือไม่ จะได้เป็นประสบการณ์กับผู้ที่จะไปในรุ่นต่อไป ?
 
»
การไป ศึกษาต่อต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นประเทศอะไรก็ตาม ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าไปเรียนแล้ว ควรประพฤติตัวและเลือกปฏิบัติในสิ่งที่ดีที่ถูกต้องสิ่งที่ไม่ดีก็ไม่ควร ปฏิบัติ แต่สำหรับผู้หญิง ผู้ปกครองอาจจะมีความกังวลในความปลอดภัยมากกว่าเด็กผู้ชาย แต่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเรา ในโรงเรียนที่เมืองไทยก็มีสิ่งที่ไม่ดี แต่ถ้าเราวางตัวดี ไม่เข้าใกล้สิ่งที่ไม่ดีเราก็จะปลอดภัย เมืองนอกก็เหมือนกัน การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนนั้น จะมีกฎระเบียบสำหรับตัวนักเรียนในเรื่องเวลาการเข้า-ออกจากบ้าน ครอบครัวที่นักเรียนพักด้วยได้ผ่านการเลือกสรรไว้อย่างดี และโรงเรียนก็จะเป็นโรงเรียนที่อยู่ใกล้ ๆ บ้าน เพื่อให้นักเรียนเกิดความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง

ไม่ทราบว่าเด็กเรียนสายวิทย์ ม. 4 แล้วไปเรียนที่สหรัฐเป็น ม. 5 ไม่รู้ว่าเรียนวิชาของสายวิทย์เหมือนแบบบ้านเราไหม คือมีเรียนวิชาด้านวิทยาศาสตร์ หรือเปล่า และไม่ทราบว่ากลับมาจะมีปัญหาการเรียนต่อหรือไม่ และการเทียบหน่วยกิตจะได้หมดทุกวิชาหรือไม่ หรือต้องมาเก็บวิชาหลักทั้ง 3 หรือไม่ ?
 
»
นักเรียนที่เรียนอยู่ในเมืองไทยไม่ว่าจะเรียนสายวิทย์หรือสายศิลป์ จะไม่มีปัญหาในการเลือกวิชาเรียนในสหรัฐ โรงเรียนรัฐบาลสหรัฐฯ จะมีวิชาทุกแขนงให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสายวิทย์ สายศิลป์ หรือสายวิชาชีพต่าง ๆ มากมาย เช่นเดียวกับของเรา

ถ้าไปเรียน เกรด 10 ที่สหรัฐสิ่งที่นักเรียนต้องขอกลับมาหรือจะได้รับคือ ผลการเรียน และจะมีอะไรที่ต้องขอมาหรือได้รับใบอะไรอีก ?
 
» จะต้องขอใบรายงานผลการเรียนรายวิชา (transcript) และนักเรียนจะได้รับใบประกาศนียบัตรการเข้าร่วมโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน

หลักสูตรการศึกษา High School ที่นั่น ต้องเรียนวิชาใดบ้าง กำหนดคะแนนเฉลี่ยเท่าใดจึงผ่าน และมีแยกสาขาวิชาเป็นสายวิทย์- ศิลป์ หรือไม่ ?
 
»
นัก เรียนจะต้องได้เกรดเฉลี่ย C ขึ้นไป   ส่วนวิชาที่ต้องเรียน นักเรียนสามารถเลือกได้โดยให้สอดคล้องกับที่เรียนมา  คือ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ สังคม วิทยาศาสตร์ และพละศึกษา